การฉีดวัคซีน
วัคซีนหลัก (core vaccine) ที่ต้องให้สุนัขและแมวทุกตัว วัคซีนหลักป้องกันโรคติดเชื้อรุนแรงที่มีการแพร่ระบาดทั่วโลก
วัคซีนหลักในสุนัขประกอบด้วย
- วัคซีนป้องกันไวรัสไข้หัดสุนัข (canine distempervirus; CDV)
- วัคซีนป้องกันเชื้ออะดิโนไวรัสในสุนัข (canine adenovirus; CAV) หรือโรคตับอักเสบ
- วัคซีนป้องกันเชื้อพาร์โวไวรัส (canine parvovirus-2; CPV-2) หรือโรคลำไส้อักเสบ
- วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า (rabies virus)
วัคซีนหลักในแมวประกอบด้วย
- วัคซีนป้องกันไข้หัดแมว (feline parvo virus; FPV)
- วัคซีนแคลิซิไวรัส (feline callicivirus;FCV) และเฮอร์ปีส์ไวรัส-1 (feline herpesvirus; FHV-1) หรือโรคหวัดแมว
- วัคซีนพิษสุนัขบ้า (rabies virus)
2. วัคซีนทางเลือก (non core vaccine) ควรพิจารณาให้ตามความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค โดยขึ้น ดุลพินิจของสัตวแพทย์ พิจารณาจากสภาพแวดล้อม ภูมิคุ้มกันสัตว์ และการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ หรือสุนัขที่มีความเสี่ยงสูงที่อาศัย หรือต้องเดินทางเข้าไปใน บริเวณที่มีเห็บนําโรคสูงหรือในพื้นที่ระบาด
วัคซีนทางเลือกในสุนัข เช่น
- วัคซีนป้องกันพาราอินฟลูเอนซ่าไวรัส (canine parainfluenza virus; CPiV) หรือโรคหวัดสุนัข
- วัคซีนป้องกันเชื้อ Leptospira interrogans หรือโรคเลปโตสไปโรซิส; โรคฉี่หนู
วัคซีนทางเลือกในแมว เช่น
- วัคซีนลิวคีเมีย (Feline leukemia virus) ใช้เฉพาะ แมวที่ไม่ติดเชื้อ; FeLV และต้องตรวจโรค FeLV ก่อนฉีด
- วัคซีนป้องกันการติดเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydophila felis)
วัคซีนสำหรับลูกสุนัขและแมว
ลูกสัตว์จะได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ในช่วงสัปดาห์แรกๆหลังคลอด หรือ Maternal Derived Antibodies (MDA)โดยสามารถได้รับตั้งแต่ก่อนคลอดและการได้รับนมน้ำเลืองจากแม่ โดยภูมิคุุ้มกันนี้จะค่อยๆลดลงเมื่อลูกสัตว์อายุ 8-12 สัปดาห์ ซึ่ง MDA สามารถเข้าไปขัดขวางการกระตุ้นภูมิจากวัคซีนที่ทำได้ ลูกสัตว์ที่ได้รับ MDA น้อย (ไม่ได้กินนมน้ำเหลือง, แม่ไม่ได้รับการกระตุ้นวัคซีนอย่างถูกต้อง) อาจจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้และอาจจะตอบสนองต่อการให้วัคซีนได้ แต่ถ้าลูกสัตว์ได้รับ MDA มากก็จะทำให้การทำวัคซีนล้มเหลวได้
ดังนั้นการจัดโปรแกรมวัคซีนควรอยู่ในความเห็นของสัตวแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำ การที่สัตว์ได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ หรือสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ในกรณีที่มีอาการป่วย
สรุปคือลูกสุนัขและแมวควรได้วัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 2 เดือน โดยหลังการได้รับวัคซีนประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ภูมิคุ้มกันจะค่อยๆถูกสร้างขึ้นเราจึงต้องทำการกระตุ้นวัคซีนซ้ำเพื่อให้ภูมิสูงพอจะป้องกันโรคได้ และเข็มสุดท้ายควรจะให้เมื่อลูกสัตว์อายุเลย 4 เดือนไปแล้ว โดยในช่วงที่ยังทำวัควีนไม่ครบตามโปรแกรมไม่ควรพาลูกสัตว์ออกไปพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และให้ลูกสัตว์ได้พบเฉพาะสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่สุขภาพดีและได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น